เป็นหมา 10 : พันธะ
“เบรคใจเย็นๆ ตื่นมามองฉันก่อน เบรค!” เขาพยายามปลุก
แต่เบรคคล้ายกับคนที่ไม่มีสติแล้ว เนื้อตัวบอบางนั้นขึ้นสีแดงจัด
ดิ้นพล่านทุรนทุราย พยายามฉีกกระชากเสื้อผ้าออกจากร่างกายราวคนเสียสติ
คิ้วคมสวยนั้นขมวดมุ่นบ่งบอกความเจ็บปวดแม้จะยังไม่ลืมตา
หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มจนใบหน้าหวานนั้นเปรอะเปื้อน
“เบรคฉันขอโทษ
ได้โปรดอย่าเป็นแบบนี้เลย” หยาดน้ำใสไหลออกจากดวงตาสีแซฟไฟต์ หมาป่าที่หยิ่งทtนงหวาดกลัวจนเผลอร่ำไห้ออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว
มาลิครู้เพียงแค่ว่าเขาเจ็บ เจ็บจนจะขาดใจตามเบรคไปแล้ว
หากย้อนเวลากลับไปได้เขาคงไม่เอายานี่ใส่ปากเบรคแน่
เขามันทำผิด เขามันทำพลาดอีกแล้ว
เขาไม่น่าทำแบบนี้เลย มาลิค ไอ้หมาโง่! ดีแต่ทำให้เบรคนั้นเจ็บปวด
ดิ้นอยู่ชั่วอึดใจ เบรคก็นิ่งไป
มาลิคค่อยๆดันกายให้เบรคออกจากอ้อมกอด แต่จมูกที่เคยคิดว่าใช้การไม่ได้นั้นกลับรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ!
กลิ่นหอมอ่อนโยนที่เคยทำให้รู้สึกสบายใจยามที่ได้กลิ่น
ยามนี้มันกลับทำให้มาลิครู้สึกแปลกไปจากเดิมเมื่อมันปะปนมากับฟีโรโมนที่เพิ่งถูกปลดปล่อย
ทำให้มันทั้งหอมยั่วยอนและมอมเมาสติอัลฟ่าตัวใหญ่ได้มากมายเสียเหลือเกิน
กายหมาป่าพยายามถดหนีจากร่างบอบบาง
ด้วยกลัวว่าอารมณ์ความต้องการที่กำลังก่อตัวจะพาลทำให้เขาทำร้ายร่างกายคนตัวเล็กตรงหน้าได้
เขากำลังรัท...และเบรคก็กำลังฮีท!!!
เขาจะทำร้ายเบรคไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
โดยเฉพาะยามที่อีกฝ่ายนั้นไร้สติ...
เรือนกายสูงใหญ่พลันไร้เรี่ยวแรงแม้จะยืนทรงตัว
ทำได้เพียงคลานถดหนีอย่างทุลักทุเล
คิดจะกลายร่างก็ไม่ได้เพราะนั่นจะยิ่งทำให้สัญชาตญาณความต้องการของสัตว์ป่าที่เขาพยายามจะสะกดมันไว้ตื่นขึ้น
พยายามกลั้นลมหายใจของตัวเองอย่างยากลำบาก
เพราะกลิ่นที่เย้ายวนกำลังทำเขาประสาทเสีย
ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเกร็งเครียดขึงเพราะหักห้ามในอารมณ์จนเส้นเลือดนั้นปูดโปน
อีกนิดเดียว แค่เพียงนิดเขาจะออกจากตรงนี้ได้แล้ว แค่นิดเดียว...
“ซะ...ซาเดน ฉันหายใจไม่ออก”
เสียงหวานนั้นแหบพร่าเพราะความต้องการเปล่งเสียงเรียก
ยิ่งทำให้อัลฟ่าที่พยายามสะกดกลั้นตัวเองไว้ทรมานมากขึ้นเท่าตัว
เสียงเรียกนั้นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่จุดไฟแห่งความต้องการให้ลุกโชน
“เบรค...เงียบ..เงียบเดี๋ยวนี้” ออกปากสั่งอย่างอ่อนแรงแต่มีหรือที่เบรคจะฟัง
ร่างกายขาวผ่องพลันผุดลุกขึ้นจากที่นอนอย่างทุลักทุเล ค่อยเยื้องอย่างมาหาเขา
ดวงตาสีเถ้าฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา ช่างน่าสงสารและน่ารังแกเสียเหลือเกิน
“เหมือน...ฉันเหมือนกำลังจะตายเลย”เบรคว่าขณะพยายามก้าวเดิน
มาลิคพยายามถอยสุดทางจนหลังชนผนังถ้ำ
เขาพยายามเบือนหน้าหนีไม่อยากมองคนตัวบางที่มีเศษอาภรณ์ปิดพอหมิ่นเหม่
ภาพนั้นมันทรมานเขาเกินไป แต่นอกจากจะไม่ถอยไปแล้ว
เขายังถูกทำเป็นเบาะรองนั่งเมื่อเบรคนั้นหยัดกายขึ้นมาคร่อมทับ
“เบรค นายอย่าทำอย่างนี้”
เพราะฉันจะทนต่อไปไม่ไหวแล้วนะ มาลิคพยายามกัดฟันทน
“นายจะทิ้งฉัน
อย่าทิ้งฉันนะ...ได้โปรด” เบรคออดอ้อน ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นไล้จูบไปทั่วใบหน้าคมสัน
หัวสมองเขามันเหมือนถูกปั่นป่วนด้วยความรู้สึกประหลาด
เขารู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้ ร่างกายมันพลันร้อนรนอยากได้บางอย่างมาเติมเต็ม
อยากได้อ้อมแขนของซาเดนนั้นมาโอบกอด
อยากได้ความอุ่นร้อนของหมาป่ามาช่วยทำให้เขาหายจากความรู้สึกประหลาดนี้
เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่เพราะกลิ่นกาแฟนี้มันหอมฟุ้งจนเกินไป
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รับรู้ทุกอย่างว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
รู้ว่าริมฝีปากของตัวเองกำลังถูกหมาป่าตัวโตนั้นกัดกิน
รู้ว่าตัวเองนั้นถูกหมาป่าตัวใหญ่ขบกัดทำรอยไว้ที่ใด
รู้ทุกสิ่งและรู้สึกทุกอย่างว่ามันนั้น...รู้สึกดีเพียงใด
เหมือนว่าสัมผัสของหมาป่าที่มอบให้อย่างช้าๆนั้นจะไม่ทันใจโอเมก้าใจร้อน
ริมฝีปากสีแดงจัดขบกัดไปที่ใบหูสวยของคนตัวหนาที่เป็นเบาะรองนั่ง
ไม่พอซ้ำยังขย่มตักกว้างเร่งเร้าบดเบียดบั้นท้ายกลมสวยที่เริ่มเปียกชื้นให้แนบไปกับบางสิ่งบางอย่างที่กำลังตื่นตัว
“ซี๊ด...อย่าทำอย่างนี้นะเบรค”
มาลิคกัดฟันกรอด เขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วนะ
“กอดฉัน...กอดฉันนะซาเดน”
เสียงหวานกระซิบแหบพร่า ก่อนที่ลิ้นอุ่นร้อนนั้นจะเลียที่ใบหูเจ้าหมาป่าออดอ้อน
และนั่นก็เหมือนขวานเล่นงามที่สับเส้นความอดทนให้ขาดผึงในทันที!
อ้อมแขนแข็งแกร่งตวัดเกี่ยวเอวบางที่คร่อมตักให้พลิกหงายลงเป็นไปนอนราบกับพื้น
แล้วเอาตัวเองขึ้นไปคร่อมทับอีกที ดวงตาสีแซฟไฟต์วาวโรจน์เต็มไปด้วยความต้องกายและหื่นกระหาย
ทอดสายตามองร่างขาวที่กำลังบิดเร้าจากความต้องการของตน
“กอดฉะ..อ๊ะ”
เสียงหวานพยายามอ้อนวอนอีกครั้งแต่ก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากร้อนก่อนที่จะทันได้พูดจบประโยคดี
สัมผัสของหมาป่าครั้งนี้เร่าร้อนและรุนแรงกว่าเดิม ลิ้นหนากวาดต้อนเอาความหวานหอมเข้าปากอย่างตะกละตะกลาม
และเมื่อลิ้นบางพยายามตอบกลับไม่เป็นประสายิ่งทำให้มันทวีความรุนแรงด้วยความย่ามใจ
มือหนาของหมาป่าฉุดกระชากเศษผ้าที่ห่อหุ้มตัวโยนออกไปไม่สนทิศทาง
ประสานกับมือน้อยที่พยายามดึงรั้งเสื้อผ้าที่หมาป่าสวมใส่นั้นให้ไกลห่าง
แรงน้อยที่เงอะงะพลันทำหมาป่าขัดใจ
ผละจากความหอมหวานเปลี่ยนมาถอดผ้าผ่อนของตนโยนออกไปอีกทาง
“ฮะ..อา...อื๊ม”
เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอด้วยความพอใจที่ถูกหมาป่าพรมจูบทั้งยังขบกัดไปทั่ว นิ้วเรียวจิกไปทั่วหลังเปล่าเปลือยของหมาป่าด้วยความวาบหวาม
เบียดกายให้แนบชิด เข้าหาสัมผัสที่ตนต้องการ
“อือ แรงกว่านี้ซาเดน อ่า”
“นายมันขี้ยั่ว...เบรค” พล่ามบ่นกับยอดอกสีหวานที่ถูกขบกัดจนขึ้นสี
ยิ่งเขากัดฝังรอยเขี้ยวก็คล้ายเบรคจะยินดีที่ตัวเองนั้นเจ็บปวด
มือเล็กบังคับกดให้หน้าเขาจมกับอกฝังสัมผัสให้รุนแรงขึ้นอีก มาลิคยกยิ้มพอใจแต่ก็ยินดีจะทำตามอย่างที่เบรคต้องการ
ร่างกายของโอเมก้านั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้กำเนิดบุตร
แม้เบรคจะบอบบางแต่สองเต้านั้นก็มีเนินเนื้อที่อวบอิ่มพองามอยู่ ช่างเหมาะกับการเป็นแม่พันธุ์ที่ดี
“ช้าหน่อยเบรค”
เขาบอกเอวเล็กที่พยายามเบียดเสียดร่างกายถูไถส่วนของตนเข้าหาเขา
ท่าทางกระหายต้องการที่มากมายไม่ได้ทำให้มาลิคนึกรังเกียจเช่นโอเมก้าทั่วไป
กลับกันเขาพอใจเสียเหลือเกินที่เบรคโหยหาเขาขนาดนี้
“อืม นายมันช้า อ๊า!” หวีดร้องเสียงหลง
เชิดหน้าขึ้นขึ้นสูงจนแผ่นหลังโก่งตัวยกสูง
เมื่ออยู่ๆหมาป่าก็ปลดขาเรียวที่เกาะเอวสอบเปลี่ยนเป็นจับมันขึ้นพาดบ่าแทน
ความรู้สึกกระสันเข้าจู่โจมจนคนได้รับแทบสำลักออกมา
เมื่อกลีบดอกไม้งดงามถูกสัมผัสด้วยความอุ่นร้อนของเรียวลิ้น
“ฮ๊า..ซะ..ซาเดนมัน อ๊า”
เรียวลิ้นร้อนไล้เลียพลางแหย่สำรวจช่องทางดงามของดอกเบญจมาส
แม้ร่างกายโอเมก้าจะขับสารหล่อลื่นมาเพื่อเตรียมพร้อมแต่มาลิคก็ยังไม่วางใจอยู่ดี หมาป่าตัวใหญ่ใช้ลิ้นไล้เลียสร้างความหล่อลื่นด้วยน้ำลายจนช่องทางนั้นเปียกชุ่มจนพอใจ
ก่อนจะหันมาสนใจแท่งเนื้องดงามที่กำลังคายน้ำทั้งยังตั้งขึ้นชูชัน
“มะ..ไม่เอาแล้ว ฮ๊า ซาเดน
อย่า...อ๊า” พยายามเอ่ยปากห้าม แต่พี่เขาก็ไม่ฟัง
ปากหยักของหมาป่าเข้าครอบครองแท่งเนื้อที่ไม่เคยมีใครแตะต้องมาก่อนแม้แต่ตัวผู้เป็นเจ้าของเอง
โพรงปากนั่นช่างทำหน้าที่ได้ดี มันไล้เลียทั้งดูดดึงหนักๆไม่กี่ครั้ง
หยาดน้ำสีขาวสะอาดก็ถูกปลดปล่อยจนล้นทะลัก
มาลิคไม่ได้กลืนหยาดน้ำรสหวานจนหมด เขาจงใจจะคายแล้วปล่อยมันให้เลอะเปรอะไปทั่วท้องน้อยนั่นแทน
แล้วใช้ลิ้นไล้เลียเก็บมันอีกครั้ง ราวกับสุนัขที่กำลังดื่มน้ำจากแอ่งลำธาร...
ค่อยใช้ลิ้นไล้เก็บ
ดวงตางดงามก็คอยช้อนมองภาพใบหน้าหวานที่กำลังแดงระเรื่อไปด้วย
ดวงตาสีเถ้านั้นรู้สึกว่ามันจะเปล่งประกายกว่าที่เคยกำลังเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
แก้มใสที่เนียนนุ่มนั้นขึ้นสีจนอยากจะกัดมันให้จมเขี้ยว
อกบางๆที่มีรอยกัดและจูบกำลังหอบเอาอากาศเข้าปอดจนกระเพื่อมขึ้นลง
ขยี้...
มันน่าบดขยี้ให้แหลกเหลวภายใต้คมเขี้ยวของเขาจริง!
“อ๊า! ฮ๊ะ...ฮ่ะ”
เพราะคิดจะบดขยี้เลยไม่ต้องเสียเวลาจะคิดอีกต่อไป
ความแข็งแกร่งของหมาป่าถูกสอดใส่เบญจมาศดอกน้อยโดยไม่รีรอหรือออมแรง
แม้จะมีหยาดน้ำหล่อลื่นช่วยนำทางแต่มันก็ไม่ได้ลดความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
โอเมก้าตัวน้อยที่รองรับอารมณ์หวีดร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
น้ำตาเม็ดโตไหลออกจากดวงตาสีเถ้าไม่ขาดสาย และยิ่งหมาป่าตัวใหญ่กระเสือกกระสนร่างกายขยับหนักๆ
เบรคก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะตายอย่างเสียไม่ได้
“จะ...เจ็บ..ซะ..ซาเดน ฉันเจ็บ”
พยายามร้องบอกแต่เจ้าหมาป่ากลับไม่ฟัง
ยิ่งเขาเปล่งเสียงร้องก็เหมือนแรงกระแทกจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปด้วย เบรครู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกดึงจนร่างกำลังจะแยก
แรงกระแทกที่ส่งเขามาก็เหมือนท่อนไม้ใหญ่ที่อัดเขาไปภายในร่างเขา
มันเจ็บปวดจนแทบจะตาย...หากทว่า
รู้สึกดีจนพูดออกมาไม่ได้
ไม่ใช่ว่ามาลิคตั้งใจจะมองเมินเบรค
แต่ฟังเสียงหวานๆที่มันกำลังหอบเรียกชื่อ มันทำให้เขาฝืนอารมณ์ตัวเองไม่ได้
ยิ่งเบรคเปล่งเสียงร้องเขาก็ยิ่งอยากทำให้แรงขึ้น ให้ปากเล็กๆนี่เอาแต่เรียกชื่อของเขาตลอดไป
เบรคอุ่นจนร้อนแถมยังตอบรับเขาดีมากกว่าใครที่เขาเคยเจอ
มันยิ่งยากที่จะทำใจให้ทำเบาลง
“แฮ่ก...เบรค...นายโคตร โคตรดีเลย!” หมาป่าคำรามขณะโถมกายเข้าหาจนร่างน้อยสั่นคลอน
ได้ยินคำชมเด็กน้อยก็พยายามทำตัวดี
ขาเรียวเกี่ยวเข้าเอวสอบของคนพี่พร้อมทั้งโถมตัวเข้าหา
คล้องแขนเข้ากับลำคอแกร่งเกาะเกี่ยวให้ร่างของเราแนบกันทุกสัดส่วน
เสียงเนื้อกระทบกันจนดังลั่นถ้ำ
พร้อมเสียงลมหายใจที่หอบหนักๆด้วยแรงราคะความต้องการ
ช่างเป็นเสียงที่ลามกแต่ช่างรู้สึกดีเหลือเกินสำหรับสองร่างที่โรมรันกันไม่อย่างไม่มีใครยอมใคร
ทุกแรงกระแทกนั้นเน้นย้ำสัมผัสให้คนทั้งสองรับรู้ว่าตนเป็นของกันและกัน
“ซะ..ซาเดน ฉัน ฉันจะ..อ๊า”
กรีดร้องออกมาอย่างขัดใจ เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะใกล้ถึงจุดสูงสุด
แต่หมาป่าตัวโตกลับใช้นิ้มมือมาปิดช่องทางปลดปล่อยด้านหน้าเขาไว้
แถมยังพลิกกายเขาเปลี่ยนเป็นท่าหมอบคลานทั้งๆที่ยังไม่ถอนตัวออกจากเขาเลยด้วยซ้ำ
โอเมก้าตัวน้อยถูกจับมาเป็นท่าหมอบคลาน
บั้นท้ายที่ถูกเชื่อมต่อลอยเด่นด้วยการโอบรัดของแขนที่แข็งแกร่ง ขณะที่ทั้งร่างนั้นอ่อนปวกเปียกจนหยัดกับพื้นไม่อยู่
มากเกินไป ท่านี้มันมากเกินไป
มันแน่นเกินไปและก็รู้สึกมากเกินไป...อึดอัดไปหมด
“เย็นไว้ เราใกล้จะเสร็จแล้ว”
ไม่ใช่แค่เบรคที่ใกล้จะเสร็จสม มาลิคเองก็เช่นกัน อัลฟ่าหนุ่มกัดฟันจนกรามขึ้นสัน
ก่อนจะกัดเข้าที่ปลอกคอหนังของคนใต้ร่าง
กระชากจนมันขาดออกจากกันเขวี้ยงออกไปไม่รู้ทิศทาง
ใกล้จะจบแล้ว...
มันใกล้แล้ว...
“กรี๊ดดดดดดดด”
เสียงหวีดร้องดังมาอีกรอบ และรอบนี้ดังกว่าทุกครั้ง
เมื่อมันเป็นเสียงที่มาจากทั้งความสุขสมและเจ็บปวด ช่องทางที่เราเชื่อมต่อกันและกันเต็มไปด้วยหยาดน้ำขาวขุ่นไหลตามเรียวขาที่สั่นจนน่าสงสาร
และคอบอบบางก็หลั่งเลือดรินไหลเมื่อมันถูกครอบครองด้วยคมเขี้ยวของหมาป่า
หมาป่าตัวโตที่ครอบครองร่างบอบบางตกใจจนตาแทบถลน
เมื่อร่างที่กกกอดนั้นปรากฏอักขระแปลกประหลาดขึ้นอีกครั้ง
ก่อนมันจะเรืองแสงแล้วแตกสลายหายไปชั่วพริบตาพร้อมกับเสียงร้องของเบรคที่เงียบลงไป
เสร็จสมบูรณ์
การผูกพันธะเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์...และเกราะป้องกันของเบรค
ก็ถูกทำลายสิ้นตามกันไปแล้ว
“อ๊า! อย่าเพิ่งขยับ มันเจ็บ”
เบรคร้องบอกเสียงแผ่วก่อนที่ความเจ็บปวดมันจะทวีความรุนแรงมากกว่านี้
ซาเดนกัดเขาไม่เบาแรง นั่นมันเจ็บมาก แต่ที่มากกว่าแผลที่คอ
ก็คงเป็นอะไรบางอย่างที่พองขยายอยู่ในตัวเขา ติดล็อคแน่นชนิดที่ว่าถ้าซาเดนขยับเพียงนิดมันก็ทำเขาร้าวไปทั้งร่าง
“ขอโทษนะ ฉันน็อทน่ะ ไหวหรือเปล่า”
จูบซับหยาดเหงื่อที่ไหลไปตามกรอบหน้าขาว
กลิ่นมากมายที่ลอยเข้าจมูกยิ่งทำให้มาลิคนึกยินดี เขาหายแล้ว เขาได้กลิ่นแล้ว!
“ไหว อยู่นิ่งๆก่อนได้มั้ย ฉันเจ็บ”
คนตาบอดหันหน้ามาบอกแต่สิ่งที่ปรากฏในตากลับไม่ใช่สีขาวหรือรูปร่างที่พร่าเลือน
แต่กลับเป็นใบหน้า ใบหน้าของมนุษย์ที่ชัดเจน มองเห็นรายละเอียดทุกอย่างแน่ชัด
ดวงตาสีแซฟไฟต์ที่เขาอยากมองเห็นมันมาโดยตลอด จมูกโด่งที่คมเป็นสันชัดเจน
กระทั่งริมฝีปากหยักที่แดงระเรื่อ
“ซาเดน ฉัน...ฉันมองเห็นนายแล้ว!”ร้องลั่นยินดียิ้มออกมาทั้งน้ำตา
มือบางสั่นระริกขณะไล้สำรวจใบหน้าคมหล่อเหลานั้นอีกครั้ง เขามองเห็นแล้ว
มองเห็นหน้าซาเดนแล้ว
“มองเห็นก็ดีแล้ว ร้องไห้ทำไมล่ะ”
มาลิคยิ้มเอ็นดู
ใช้แขนกอดพยุงร่างของเบรคเอาไว้ไม่ให้ขยับมากเกินไปจนทำให้เจ็บมากกว่านี้ การน็อทของหมาป่ามีเวลาไม่แน่นอน
อย่างน้อยอาจจะแค่ครู่เดียว หรืออย่างมากคือหนึ่งถึงสองชั่วโมง
กลัวว่าเบรคที่กำลังหมดแรงจะหยัดยืนต่อไม่ไหว
“ดี ดีจังเลย ฉันมองเห็นแล้ว
มองเห็นทุกอย่างแล้ว ดีอ่ะ ดีที่สุดเลย!” ละล่ำละลักบอกอย่างยินดี ขณะใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ
แต่พลันหันมาเห็นท่าทางที่ตัวเองถูกกดกอดและเชื่อมต่ออยู่ ดวงตาสีเถ้าก็พลันหลุบลงด้วยความเขินอาย
เขากับซาเดนมันแบบ...งื้ออออ
“เจ็บหรือเปล่า”
มาลิคเห็นท่าทางเขินอายของเจ้าโอเมก้าตัวน้อยก็อดเอ็นดูไม่ได้ ลิ้นหนาไล้เลียบาดแผลที่คอให้อย่างเอาใจ
รอยแห่งพันธะ คมเขี้ยวนี้ช่างงดงามชัดเจน
“อื๊อ! อย่าเลียสิ”
“วิธีรักษาแบบหมาป่าน่ะ”
ตอบพลางคลอเคลียไปเรื่อยให้โอเมก้าตัวน้อยหดคอหนี มือหนาก็ลูบไปเรื่อยตามตัวเล็กๆ
แต่ที่จะชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นท้องน้อยที่มันนูนป่องขึ้นมาล่ะมั้ง
“อือ ไม่เอาซาเดน อย่าเล่นได้มั้ย
มันเจ็บนะ” มากกว่าเจ็บก็คงเป็นความรู้สึกต้องการที่กำลังกลับมาอีกครั้ง
“ถ้ามันคลาย
หมายถึงว่า..อีกครั้งได้มั้ย” หมาป่าถามเสียงแหบพร่า
รับรู้ถึงอาการแข็งล็อคที่ค่อยๆคลายลง ไม่พอหรอก เขายังไม่พอกับแค่นี้แน่
เบรคก็คงไม่ต่าง ฮีทแรกน่ะ มันไม่จบแค่ครั้งเดียวหรอก
“หือ? ก็...ได้มั้ง”
ตอบเสียงอ้อมแอ้ม และนั่นก็ได้รางวัลเป็นการหอมหนักๆจากหมาป่าตัวโต
ราวครึ่งชั่วโมงตัวล็อคที่คลายออกก็ราวกับเป็นระฆังลั่นสนามรักให้ลุกขึ้นใหม่
โอเมก้าตัวน้อยถูกจับมานั่งเกยตักแกร่งโดยที่ส่วนที่เชื่อมกันนั้นยังไม่หลุดออก
คนตัวเล็กถูกดันให้นั่งสูงกว่า มือหนาประคองเอวบางให้ขยับควบขี่เขาขึ้นลง
สองขาเรียวถูกจับอ้ากว้าง ตั้งฉากหยัดกับพื้นส่งแรงควบขี่
“หอมจัง นายตัวหอมแทบบ้าเลยเบรค”
มาลิคสูดดมกลิ่นหอมเข้าเต็มปอด ยิ่งมันเจือมาพร้อมกลิ่นน้ำกามคละคลุ้ง
มาลิคก็แทบจะบ้า ยามที่ร่างกายเราเสียดสีกันและกัน
แท่งเนื้อที่ซ่อนตัวอยู่ในโพลงกลีบดอกเบญจมาศก็ยิ่งเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม
“อือ นายก็หอม
หอมเหมือนกลิ่นกาแฟเลย อ๊ะ”
“นายชอบหรือเปล่า”
มาลิคจูบฝังรอยรักเข้าที่ลำคอระหงอีกครั้งแม้มันจะแทบไม่มีพื้นที่ว่างแล้วก็ตาม เขาชอบกลิ่นเนื้อนิ่มนี่ ดมกี่ครั้ง จูบฝังรอยหรือจะกัดเท่าไร
ก็รู้สึกเหมือนว่ามันไม่เคยพอ
เบรคกำลังทำให้เขาคลุ้มคลั่ง ตกลงไปในบ่วงความลุ่มหลงและโลภมาก ที่เท่าไรก็ไม่เคยพอกับความหอมหวานนี้
คู่แห่งโชคชะตา...ช่างน่าหลงใหลอะไรเช่นนี้
“ฉะ..ฉันน่ะ อ๊ะ รักนายเลยล่ะ อ๊า!”
คำบอกรักที่ให้ไปยิ่งทำให้สะโพกหนั่นสวนแรงขึ้นไปอีกเท่าตัว
แผ่นหลังเนียนสวยแอ่นโค้งราวกับคันธนูด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน
พร้อมกับหยาดน้ำรักที่ไหลล้นทะลักช่องทางงดงามสวย
“อย่าพูดแบบนี้บ่อย”
*กลับไปเม้นท์ที่เด็กดีด้วยนะคะ มีต่ออีกนิดหน่อยค่ะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=2165653&chapter=12
ความคิดเห็น